ไทยไลออนแอร์ เครื่องบินโบอิ้ง 737 – จากกรณีเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 737 Max 8 ตก 2 ลำ ภายใน 5 เดือน ส่งผลให้การบินหลายประเทศเกิดความตื่นตัวและกังวลต่อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวที่สายการบินประเทศของตนมี เกรงว่าจะประสบเหตุซ้ำดังกล่าวล่าสุด ประเทศสิงคโปร์
ได้ออกประกาศห้ามสายการบินทั่วโลกที่ใช้เครื่องบินบินโบอิ้ง737 MAX บินเข้าและออกประเทศสิงคโปร์ ส่งผลให้ กพท.ออกประกาศให้ ไทยไลออนแอร์ทำการเปลี่ยนเครื่องบิน ซึ่งสายการบินก็ได้เปลี่ยนแบบเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์แล้ว (เครื่องบินรุ่นที่ไทยไลออน์แอร์ใช้บินระหว่างประเทศ ที่มีจำนวนสามเครื่องเป็นรุ่น โบอิ้ง737 MAX 9*)
เที่ยวบินซาอุดิอาระเบียต้องหันหัวกลับสนามบิน หลังจากทราบว่าหญิงผู้โดยสารรายหนึ่งได้ลืมลูกไว้ที่อาคารผู้โดยสาร วันที่ 12 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานกรณีเที่ยวบิน SV832 จากซาอุดิอาระเบียไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อเครื่องขึ้นบินจากสนามบินเมืองเจดดาห์ได้เพียงไม่นาน กัปตันก็ได้รับรายงานว่าผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งได้ลืมลูกทิ้งไว้ที่อาคารผู้โดยสาร
วิดีโอซึ่งบันทึกเรื่องราวการควบคุมการจราจรทางอากาศ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว ได้ถูกอัพโหลดขึ้น Youtube และกลายเป็นไวรัลอย่างรวเร็ว มีผู้เข้าชมแล้วว่า 50,000 ครั้ง “ ขอพระเจ้าสถิตกับเรา เราจะกลับไปหรืออะไรนะ? ” นักบินพูดผ่านวิทยุ
“ เที่ยวบินนี้ถูกขอให้กลับมาสนามบิน…ผู้โดยสารลืมลูกน้อยของเธอในพื้นที่รอขึ้นเครื่อง” คำพูดจาก ATC
เครื่องบินเอธิโอเปีย โบอิ้ง 737 Max-8 ใหม่ ตกกระแทกพื้นหลังขึ้นบิน 6 นาที ดับ 157 ราย เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เครื่องบิน โบอิ้ง 737-800 แม็กซ์ เที่ยวบินที่ ET 302 ของสายการบินเอธิโอเปีย ประสบอุบัติเหตุร่วงตกใกล้เมืองบิชอฟตู ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอาดดิสอาบาบา เมืองหลวงประเทศเอธิโอเปีย หลังบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติโบเล เพียง 6 นาที ผู้โดยสารทั้งหมด 149 คน และลูกเรือ 8 คน รวม 157 คนเสียชีวิตทั้งหมด
ด้านบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรุ่น โบอิ้ง 737-800 แม็กซ์ ระบุว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เครื่องบิน 737 Max-8 เป็นรุ่นเครื่องบินที่ค่อนข้างใหม่โดยเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2016 และสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สเพิ่งเริ่มนำมาใช้บินเมื่อปีที่แล้ว
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ ย้อนกลับไปในเดือนต.ค. 2561 5 เดือนก่อน เครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้ของสายการบิน ไลออน แอร์ (Lion Air) ของประเทศอินโดนีเซีย ตกหลังจากขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตาแค่ไม่กี่นาทีเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 คน เสียชีวิตทั้งหมด
พบเด็กชายเป็น “บาดทะยัก” ในรัฐโอเรกอน ครั้งแรกในรอบ 30 ปี
บาดทะยัก -วันที่ 8 มี.ค. เว็บไซต์ livescience รายงานเหตุ เด็กชายวัย 9 ขวบ ในรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ป่วยเป็นบาดทะยักอย่างรุนแรง หลังจากเล่นอยู่ในฟาร์ม แล้วเกิดอุบัติเหตุเป็นแผลบริเวณหน้าผาก พ่อและแม่ทำความสะอาดและเย็บแผลให้ลูกชาย แต่เมื่อผ่านไป 6 วัน เห็นชายเกิดอาการกรามเกร็ง และอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ร้องทุกข์ทรมานจนพ่อแม่ต้องส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน
แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กชายป่วยด้วยโรคบาดทะยัก นับเป็นรายแรกในโอเรกอนในรอบกว่า 30 ปีที่ติดเชื้อ ตาม รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) (บาดทะยักเป็นเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย Clostridium tetani แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนป้องกันบาดทะยัก)
เมื่อเด็กชายมาถึงโรงพยาบาล กล้ามเนื้อกรามของเขากระตุก แม้ว่าเขาต้องการน้ำ เขาก็ไม่สามารถเปิดปากดื่มได้ อาการยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อแข็งเกร็งจนหลังแอ่น เด็กชายต้องเข้ารักษาในห้องไอซียู (ICU) ต้องอยูี่ห้องมืด และถูกอุดหู เพราะเเสงและเสียงจะไปกระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อกระตุก เด็กชายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยหายใจ ให้ยารักษาความดันโลหิต และยาคลายกล้ามเนื้อ
เด็กชายอยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลา 47 วัน ด้วยค่ารักษาพยาบาลมากกว่า $ 800,000 ขณะนี้ ตอนนี้เด็กชายสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติ เช่น การวิ่งและปั่นจักรยาน แต่น่าเศร้า ที่พ่อและแม่ของเด็กยังยืนยันปฏิเสธไม่ให้ลูกฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
ฟลามิงโก้บอกว่า “ผมไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว คุณย่าผมเสียชีวิตเมื่อปีก่อน ผมเลยอยากมากราบท่านสักหน่อย แต่ต้องอึ้งเมื่อเห็น Tenga ที่มีเพื่อนมอบให้ มาใช้งานในแบบแปลกๆ โถ่… คุณปู่ นั่นไม่ใช่แจกันนะ แล้วทำไมไม่มีญาติคนไหนบอกเลยว่ามันไม่ใช่แจกัน ยังดีนะ ที่มันเป็นอันใหม่”
วันที่ 5 มี.ค. เว็บไซต์อมรินทร์ทีวีรายงาน เหตุคดีฆาตกรรม นายรามิส โจนูซี นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาใช้บริการห้องพัก Airbnb ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อ ต.ค. 2017 ที่ผ่านมา เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ โจนูซี่ แขกที่ตอนแรกของเข้าค้าง 3 คืน แต่กลับขออยู่ต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ กระทั่งถึงวันเช็คเอาท์ นายโจนูซี่ได้เก็บของแอบออกจากห้อง ไม่ยอมจ่ายเงิน จำนวน 210 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือกว่า 4,700 บาท เนื่องจากมีเงินไม่พอ เจ้าของห้องซึ่งมี 3 คน ได้แก่นายเจสัน โคลตัน นายเครก เลวี่ และนายไรอัน สมาร์ท จึงได้ทวงเงิน ก่อนนำไปสู่การรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมด
ล่าสุดศาลออสเตรเลียกำลังพิจารณาคดีฆาตกรรมนายรามิส โจนูซี ซึ่งผู้ก่อเหตุอาจได้รับโทษจำคุก 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ขณะที่ทางแอร์บีแอนด์บีได้ประณามเหตุฆาตกรรมอันโหดร้ายดังกล่าว และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง