สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Dean & Deluca ร้านขายของชำระดับพรีเมียมอายุ 40 กว่าปี ซึ่งวันนี้มีเจ้าของเป็นคนไทยคือ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ได้ยื่นเรื่องขอล้มละลายภายใต้ Chapter 11 ต่อศาลล้มละลายสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนิวยอร์ก (แมนฮัตตัน)
Bloomberg ระบุว่า สาเหตุที่ยื่นล้มละลายเป็นเพราะโควิด-19
ทำให้กำลังซื้อในมหานครนิวยอร์กหยุดนิ่ง และส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายของ Dean & Deluca ขณะนี้บริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีหนี้สินกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีทรัพย์สินเพียง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.6 พันล้านบาท อีกทั้งบริษัทแม่เพิ่งเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปีที่แล้วว่าผิดนัดชำระหนี้มูลค่ากว่า 9.5 พันล้านบาทด้วย
ภายใต้ Chapter 11 เป็นการยื่นขอฟื้นฟูกิจการ โดยการขออำนาจศาลคุ้มครองการทวงหนี้จากเจ้าหนี้ และเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัว โดยเป็นการพักชำระหนี้ชั่วคราว
หากจำกันได้ กลางปีที่แล้ว Dean & Deluca ได้ตกเป็นข่าวใหญ่มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อหนังสือพิมพ์ The New York Times ตีพิมพ์ข่าวเรื่องการปิดสาขาของ Dean & DeLuca ในสหรัฐอเมริกาถึง 2 สาขา ติดหนี้คู่ค้ามูลค่าหลายแสนดอลลาร์สหรัฐ ไม่กี่วันต่อมา สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ออกมายอมรับกับสื่อไทยว่า ธุรกิจที่สหรัฐฯ มีปัญหาจริงๆ
แต่สรพจน์ก็ยืนยันว่าธุรกิจในสหรัฐฯ ยังไม่มืดมนเสียทีเดียว ยังมีโอกาสเติบโตได้อยู่ ซึ่งทางบริษัทได้วางกลยุทธ์เพื่อพื้นฟู ทั้งย้ายครัวกลาง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนหายไป 80% และเปิดโมเดลร้านใหม่ที่จะขายเฉพาะกาแฟ แซนด์วิช และสลัด ซึ่งเป็นเมนูที่คนอเมริกันนิยมกิน พร้อมกับย้ำว่าธุรกิจในเมืองไทยยังไม่มีปัญหา เนื่องจากได้มีการแยกบริษัทที่บริหารในสหรัฐฯ และไทยออกจากกันแล้ว
สิ่งที่สรพจน์ย้ำเสมอในการแถลงข่าวครั้งนั้นคือ ‘สิ้นปี 2019 เลือดต้องหยุดไหล’ แต่จากข่าวที่ออกมาแสดงว่า Dean & Deluca ไม่เพียงเลือดยังไม่หยุดไหล แต่กำลังจะหมดตัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ล่าสุด วอร์ตแมน ได้เสียชีวิตลงแล้วโดยไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิต อีกทั้งยังไม่สามารถระบุได้ถึงแรงจูงใจที่ลงมือก่อเหตุ
โดยทางการท้องถิ่นชี้ว่า เหตุกราดยิงในครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่ดูจะไม่มีเหตุผลมากที่สุดของ โนวาสโกเชีย และยังเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของแคนาดา นับตั้งแต่เกิดเหตุที่มือปืนกราดยิง 15 ศพ ที่รัฐมอนทรีออล เมื่อเดือนธันวาคม 2532 ด้วย
ทางด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ระบุ ทางการแคนาดา จะช่วยเยียวยาชาวโนวาสโกเชีย ให้ก้าวข้ามฝันร้ายนี้ไปพร้อม ๆ กับการที่ยังคงปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ทรัมป์ วิจารณ์ WHO รับมือโควิด-19 ล้มเหลว
วันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิจารณ์การทำงานขององค์การอนามัยโลก ถึงความล้มเหลวในการรับมือกับการระบาดของโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 รวมถึงไม่พอใจที่ทางองค์กร ให้ความใส่ใจกับจีนมากกว่า
ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “W.H.O. ล้มไม่เป็นท่า แม้องค์การอนามัยโลกจะได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก ก็ยังใส่ใจจีนเป็นหลัก ดังนั้นเราคงต้องมาทบทวนให้ดี โชคดีที่สหรัฐฯ ปฏิเสธคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ไม่ให้ปิดพรมแดนห้ามชาวจีนเข้าประเทศ ทำไมองค์กรนี้ถึงให้คำแนะนำที่ผิดพลาดขนาดนี้”
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอความเห็นจากองค์การอนามัยโลก แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ออกคำแนะนำเมื่อวันที่ 31 มกราคม ให้นานาประเทศเปิดพรมแดนของตนแม้ว่าจะเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไปทั่วโลก แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกประกาศตามหลังมาในวันเดียวกันสั่งจำกัดการเดินทางเข้า-ออกจากประเทศจีนทันที
นักการเมืองหัวอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ วิจารณ์การทำงานขององค์กรแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดวงกว้างทั่วโลกว่าใช้ข้อมูลผิดๆ จากจีน ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ออกมาเรียกร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส เกเบรเยซุส ลาออกจากตำแหน่ง เพราะยอมให้จีนชี้นำประชาคมโลกแบบผิดๆ
และในวันนี้ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายเน้นการสะสมเสบียงเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญๆ ไว้เพื่อการใช้งานในประเทศเท่านั้น อย่างน้อยจนกว่าจะมีเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
“ใบอนุญาตนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากได้รับอนุญาตหรือได้รับการอนุมัติ ยารับประทานนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง และอาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิต ซึ่งมีส่วนสนับสนุนความพยายามทั่วโลกในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ในปัจจุบัน” Charles Gore กรรมการบริหารของ MPP กล่าว “จะต้องนำ ยาแพ็กซ์โลวิด ร่วมกับริโทนาเวียร์ ยาเอชไอวีที่เรารู้ดี เนื่องจากเราได้รับใบอนุญาตเป็นเวลาหลายปี และเราจะทำงานร่วมกับบริษัทยาสามัญเพื่อให้แน่ใจว่ามีอุปทานเพียงพอสำหรับทั้ง COVID-19 และเอชไอวี”
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง