iPhone 14 มาเมื่อไหร่ หลุดข้อมูล สเปคล่าสุด เตรียมโบกมือลา mini เช็กราคา

iPhone 14 มาเมื่อไหร่ หลุดข้อมูล สเปคล่าสุด เตรียมโบกมือลา mini เช็กราคา

ยิ่งใกล้ช่วงกลางปีมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าข่าวลือเรื่องสเปกของ iPhone 14 Series ก็จะยิ่งมีความแน่ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ และล่าสุดกับข่าวลือ iPhone ตัวใหม่จากทาง Apple ที่จากแหล่งข่าวอ้างว่านี่จะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทางแอปเปิ้ลเลยก็ว่าได้ ข่าวลือข้อมูลหลุดทั้งด้านดีไซน์ สเปก รวมทั้งราคา ออกมาเรียกน้ำย่อยกันบ้างแล้ว แถมยังมีการคาดวันที่จะเปิดตัว และเริ่มวางจำหน่ายให้เหล่าสาวกแอปเปิ้ลได้มาลุ้นกันอีกด้วย

iPhone 14 Series เปิดตัวดีไซน์เดิม สเปคเพิ่มเติมคือไม่มี mini 5.4 นิ้วแล้ว

จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ได้คาดว่า iPhone 14 Series จะมีการเปิดตัวดีไซน์ในรูปแบบเดิม คล้ายกับ iPhone 13 Series แต่ก็ยังมีข่าวลือว่าอาจมีการเปลี่ยนสเปคเครื่องไปใช้ขอบแบบไทเทเนียม ในสำหรับ iPhone 14 บางรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงจากสแตนเลสที่ใช้ในรุ่น Pro ในปัจจุบัน อาจมีการใช้โลหะผสมไทเทเนียม วัสดุเดียวกับเม็ดมะยมใน Apple Watch Series 6 และ Series 7

และล่าสุดในเดือนเมษายน 2022 ได้มีการปล่อยภาพหลุดของโมเดลที่คาดว่าน่าจะเป็นไอโฟน 14 ซีรีย์ โดยในภาพจะทำให้เราเห็นว่าแอเปิ้ลได้ตัดตัวน้องเล็กอย่างรุ่น mini ออกไปเป็นที่เรียบร้อยโดยจะยังคงมีทั้งหมด 4 โมเดลดังเดิม 

มีรายงานว่า iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max จะมีเกาะกล้องหนาขึ้น สาเหตุอาจเป็นเพราะเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ขึ้น กล้อง 48MP ตัวใหม่ที่มีข่าวลือว่าจะมาแทนที่เซ็นเซอร์หลัก 12MP

มาการคาดเดาว่านี่อาจเป็น iPhone เครื่องแรกที่ไม่มีรอยบากตั้งแต่เปิดตัว iPhone X ในปี 2560 โดย iPhone 14 นั้นน่าจะใช้การเจาะรูรูปวงรีแบบจุด Face ID โดยเฉพาะที่ด้านข้าง กล้องเซลฟี่จะถูกวางไว้ในคัตเอาท์วงรี ในขณะที่ตัวแสดงจุดสำหรับ Face ID จะถูกครอบทับด้วยจอแสดงผล ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะมองเห็นได้บนหน้าจอคือคัตเอาท์กล้องวงรีเท่านั้น

แน่นอนว่าทุกการเปิดตัวของไอโฟน แอปเปิ้ลมักจะแถมความสดใหม่ของชิปประมวลผลมาด้วยเช่นกัน และข้อมูลล่าสุดที่สุดออกมาได้บอกว่า ชิปประมวลผลตัวใหม่อย่าง A16 Bionic ที่จะเปิดตัว จะรองรับทั้ง 5G และ Wi-Fi 6E ส่วนหน้าจอสำหรับรุ่น Pro และ Pro Max จะยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่รองรับ Refresh Rate 120Hz ส่วนรุ่นที่เหลือจะยังคงเป็น 60Hz อยู่

จากข่าวลือสเปคที่หลุดออกมานี้ ที่สรร้างข้องกังขาให้กับแอปเปิ้ลมากสุด ๆ แนวโน้มที่จะเป็นไปได้สูงมาก นั่นก็คือ Apple จะใช้ชิป A16 แบบใหม่ใน iPhone 14 Pro และ Pro Max เท่านั้น ในขณะที่รุ่นที่ไม่ใช่ Pro จะยังคงใช้ชิปแบบ A15 Bionic รุ่นเดียวกับ iPhone 13 อยู่ ตามตารางการผลิตของ TSMC ในทางทฤษฎี เราสามารถเห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 15% และลดการใช้พลังงานลง 30% และความหนาแน่นของลอจิกเพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับกระบวนการ 5 nm ในปัจจุบัน

เปิดตัว iPhone 14 สีม่วงเชดใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

จากการคาดการณ์ และ Ester egg หลาย ๆ อย่างจากทางแอปเปิ้ล ทำให้หลายคนเชื่อว่า iPhone 14 Series จากทาง Apple ในครั้งนี้ น่าจะมาพร้อมกับสีม่วงเชดใหม่อย่างแน่นอน โดยที่ทางแอปเปิ้ลนั้นเคยได้ทำไอโฟนสีม่วงมาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยกันโดยครั้งแรกกับ iPhone 11 และต่อมาใน iPhone 12 และพักสีม่วงไปใน iPhone 13 Series

ในส่วนของวันเปิดตัว ว่าจะมาเมื่อไหร่นั้น ได้มีการคาดการณ์ว่าแอปเปิ้ลน่าจะเปิดตัว iPhone 14 Series ตัวใหม่ในวันอังคารที่ 13 กันยายน 2565 และจะเริ่มวางจำหน่ายภายใน 7 วันหลังจากเปิดตัว

และทั้งหมดนี้ก็คือการคาดการณ์จากผู้เชียวชาญต่างประเทศ ข่าวในเรื่องของ ซีรีส์ iPhone 14 ทาง Apple ยังไม่มีการออกมายืนยันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด ใครที่เป็นสาวกแอปเปิ้ลก็ต้องอดใจรอดูกันต่อไปว่างานนี้จะได้เสียเงินให้แอปเปิ้ลอีกปีหรือเปล่านะ โดยเป็นผลของการประมาณการ และวิเคราะห์ของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ชื่อดัง ที่ทำการเปิดเผยบนแพลคฟอร์ม Twitter ไว้ว่า

“ผมคิดว่า iPhone ที่จะมีหน้าจอแบบเต็มตัวนั้น จะมาภายในอีก 2 ปีข้างหน้า และตัวรุ่น Pro Series จะมีการประยุกต์ใช้งานตัวกล้องหน้าแบบอยู่ข้างใต้หน้าจอ พร้อม ๆ กับระบบ Face ID ที่อยู่ข้างใต้เช่นกัน โดยการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นจะเป็นหนึ่งในมาตรฐานสำหรับการตัดสินคุณภาพของกล้องหน้า และ ISP รวมถึง algorithm จะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาของคุณภาพด้วย”

ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวนั้น มีฐานมาจากผลการประเมินก่อนหน้านี้ที่ว่า ระบบเซนเซอร์ Face ID ใต้หน้าจอ (Under-Display Face ID) จะไม่อยู่ในแผนการดำเนินงานระยะสั้นของ Apple ที่ซึ่งก็เกี่ยวเนื่องกับการเปิดเผยของ Ross Young ที่ว่า ความสามารถดังกล่าวนั้น จะโผล่มาใน iPhone 16 โดยแทนที่ระบบ Touch ID

นอกจากนี้แล้วนั้น Kuo ยังได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า สาเหตุของความล่าช้าในการประยุกต์ใช้งาน UD Face ID นั้น เหมือนจะมีอิทธิพลมาจากการตัดสินใจทางการตลาดมากกว่าจะเป็นในส่วนของปัญหาทางด้านเทคนิค แต่กระนั้นเข้าก็ได้กล่าวเสริมว่า ข้อจำกัดของเทคโนโลยีทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์นั้น อาจจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ Apple ตัดสินใจจะพัฒนาตัวเทคโนโลยีใต้หน้าให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

ในส่วนของปีนี้นั้น ก็มีการคาดการณ์กันว่า iPhone 14 Series จะทำการทิ้งหน้าจอแบบรอยบาก และหันมาใช้งานช่องว่างแบบหลุม (ทั้งแบบจุด และแบบแคปซูลยา) แทน

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า